ไม่ได้เขียนนานเลย กลับมาอีกที 31.05.2014 วันสุดท้ายของเดือนพฤษภาคม
ไปดู ไปชมมาแล้วค่ะ "ภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ภาค ๕ ตอน ยุทธหัตถี
เลยอยากมาเล่าให้ฟัง...
ก่อนไปดูก็แอบอ่าน comment มาในหลายๆที่ แอบคิดอยู่ เอ...จะเป็นยังไงน้า เพราะตั้งตารอมานาน
บางคนก็บอกอารมณ์ไม่ถึงที่สุด/จะทำต่อไหม?/เหมือนไม่จบ และมีเหตุผลต่างๆนานา
ที่มาเขียนวันนี้ เลยลองให้โจทย์บอกตัวเอง ว่า ดูแล้วเป็นยังไง ทำไมต้องให้คนไทยไปดูภาคนี้
ต่อไปเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะคะ ^^
โดยรวม อาจจะตรงข้ามกับที่ตามอ่านมา คือชอบ และ รู้สึกดีในตอนยุทธหัตถีนี้อยู่
เพราะในแต่ละฉาก แต่ละตอน เป็นช่วงเด่นๆที่บอกเล่าเรื่องราวตามชื่อตอน "ยุทธหัตถี"
อาจไม่ละเอียดเท่าการเล่าประวัติศาสตร์ เพราะมันต้องมีความเป็นภาพยนตร์ไปด้วย
แต่ก็เป็นเรื่องราวที่นำทาง ให้หันมามองประวัติศาสตร์ชาติของเรา
ว่าบรรพชนรุ่นก่อนๆ เสียสละเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดินขนาดไหน พลีชีพเพื่อแผ่นดินแค่ไหน
ข้อติก็มีค่ะ ทำไมจะไม่มี การตัดต่อบางทีมันดูฉึบฉับ ดึงอารมณ์ไม่ต่อเนื่อง
เลยคิดว่า เป็นเพราะส่วนของรายละเอียด ที่คงค่อนข้างเยอะหละมั้ง
ท่านมุ้ยถึงได้กลับไปตัดแล้วตัดอีก กว่าจะยอมให้ลงโรงภาพยนตร์ทั่วไป
เรื่องฉาก โปรดักชั่น นักแสดงไม่ต้องห่วงเลย พูดได้เลยว่ามีแต่เก่งๆทั้งนั้น
ฉากประทับใจแน่นอนว่าต้องเป็นฉากชนช้าง มีส่วนที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยหลายอย่างนะ
แต่ก็โอเคเลย เคยเห็นนักแสดงพูดออกในสื่อ
เป็นฉากนึงที่คิดว่าหลายคนต้องรอดูแน่นอน ^^
(มันแน่อยู่แล้ววว ดูชื่อตอนสิเธอ ยุทธหัตถี ^^)
รายละเอียดช่วงชนช้างไม่ค่อยเพี้ยนไปจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เคยอ่านมาสักเท่าไร
แต่ก็ต้องกลับไปอ่านอีก (เอ๊ะ ยังไงเนี่ยเรา ฮ่าาาา)
อีกฉากคือไอ่ขาม คนบ้าใบ้ ได้สถาปนาเป็นคนดูแลช้างหลวง
คือซึ้ง คือชอบ ^^ (สั้นๆ ละกัน ฮ่าๆ)
ขนาดคนบ้าใบ้ยังตั้งใจเพื่อแผ่นดินขนาดนี้ จนต้องหันกลับมาดูตัวเราเองเลย
สรุปดีกว่าเนาะ เริ่มจะยาววววว
ในฐานะนักเรียนประวัติศาสตร์ แน่นอนว่าไม่ได้ดั่งใจ
ภาพยนตร์ไม่สามารถเก็บทุกรายละเอียดทุกฉากได้หมด
ถ้าเกิดสร้างตามเนื้อประวัติศาสตร์ละก็
เราว่ามันคงจะดูน่าเบื่อ ถ้าไม่มีส่วนของภาพยนตร์ไปด้วย
ในฐานะของคนธรรมดาที่ไปดูภาพยนตร์
คือ อยากให้ท่านผู้อ่าน มาดูในโรงภาพยนตร์ สักคนละรอบ ^^
ฉากยิ่งใหญ่ อย่าง ชนช้าง ไม่ผิดหวังแน่นอน
ไม่ว่าคิดเห็นกันอย่างไรก็ตาม ส่วนตัวขอชื่นชมในแง่ของภาพยนตร์
คงไม่มีภาพยนตร์ไทยเรื่องไหนที่สร้างยาวขนาดนี้
คงไม่มีการลงทุนกับภาพยนตร์ ด้วยความตั้งใจ และทุ่มทุนมากขนาดนี้
การศึกษาค้นคว้ามาเป็นอย่างดี ทั้งพงศาวดารพม่าและกรุงศรีอยุธยา
เป็นส่วนผสมที่น่าดู สำหรับภาพยนตร์กับประวัติศาสตร์
ถ้ายังไงลองเปิดใจไปกว้างๆ ลองสัมผัสดู
อย่างน้อยถ้าดูแล้วเกิดคำถามว่า เห้ย มันจริงมั้ย? มันใช่เหรอ?
จะได้พาให้คุณผู้อ่าน ได้ค้นคว้า หรือหาอ่าน
หนังสือเรื่องราวในประวัติศาสตร์ชาติของเราจริงๆขึ้นมา
เพื่อการศึกษาในแง่ประวัติศาสตร์ขับเคลื่อนไปต่อ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาทั้งหมดนี้นะคะ
ถ้าอ่านแล้วเลือกจะไปดูในโรงภาพยนตร์ เราจะดีใจมากเลย ^^
ไม่ว่าสังคมไทยของเราจะเป็นไปอย่างไรในอนาคต
แต่คนไทย จะต้องไม่ลืมประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วย
ว่าเราเคยเป็นมาอย่างไร เคยทุกข์หรือสุขสักแค่ไหน
ป.ล. สงครามยุทธหัตถีไม่ใช่จุดสรุปทั้งหมดของประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระนเรศวร
พระนเรศท่านยังคงต้องรบศึกสงครามมาอีกตลอดหลายครั้งหลายครา
แต่ "ยุทธหัตถี" คือศึกแห่งศักดิ์ศรี ที่แลกมาเพื่อชาติและเอกราชของประเทศ
ขอบพระคุณ ท่าน หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล มา ณ ที่นี้ ที่ทรงสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ^^