สวัสดี วันสุดท้ายแล้วสำหรับทริปในกัมพูชา
วันนี้คือ 28 มีนาคม 2557 ค่ะ
วันนี้ไม่หนักเท่าวันก่อน ที่มีปราสาทเยอะแยะ
เริ่มต้นเช้า ไกด์นัดพวกเราเช้ากว่าปกติ
ให้มาดูรูปถ่ายกันค่ะ ^^
รูปที่มีช่างกล้องตามถ่ายให้
เขาอัดมาให้ แล้วเราก็ไปซื้อไปเลือกกัน
คือรูปที่เคยเลือกอัพให้ดูไปบ้างก่อนหน้านี้แหละ
ไม่ได้ถ่ายรูปที่อัดมาไว้ เอาคุณพ่อถือรูปมาโชว์แทนละกันนะ 555
ราคาก็พอซื้อได้นะคะ ตากล้องเค้ามีมุมสวยๆ ล้างอัดมายังไงก็ขายได้แน่นอน ^^
เราไปสักการะองค์เจ็กองค์จอม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนกัมพูชาค่ะ
ด้านในคือพระพุทธรูป เรื่องเล่าที่มาไม่แน่ชัดเหมือนกัน
เรียกเป็นวิหารแล้วกันเนาะ ^^ ที่ตั้งอยู่ในเมืองเลยค่ะ
ลักษณะจะเหมือนสวนสาธารณะเลย
ในวันนั้นเป็นวันมงคลค่ะที่วิหารมีคู่บ่าวสาวมาทั้งสักการะหลายคู่
และทำการถ่ายรูปงานไปด้วย ผู้ช่วยไกด์ท้องถิ่นบอกเราว่า จะแต่งงานที ใช้ชุดถึง 25 ชุด
ทั้งงานเช้า งานถ่ายรูป คงมีหลายพิธีแหละเนาะ *,* เราว่าแค่ค่าชุดก็เยอะแล้วนะ 555
รูปนี้คือด้านหน้า ^^
ก็ไปถ่ายรูปเค้ามาด้วยแหละ ^_^
หลังจากตรงนี้ เป็นโปรแกรม Shopping!! ^^
เขาพาไปตลาดเช้าค่ะ ไปเช้าจริงๆ ร้านยังเปิดไม่ครบเลย -"-
จุดขายของที่ระลึกทั้งหลายแหล่ ต่อราคาก็ไม่ค่อยจะลงเล้ย! 555
สภาพคล้ายเจเจบ้านเรา ข้าวของก็บอกแล้ว หน้าตาเหมือนไทย
ที่ดูจะซื้อกันเยอะ ก็มีเสื้อสกรีน เสื้อปักที่เป็นรูปเกี่ยวกับกัมพูชา
รูปปราสาททำนองนี้
ส่วนเราได้magnetกับพวงกุญแจกลับมา
เราว่านะ มันแอบแพงอยู่นะ ^,^
รูปนี้ถ่ายตลาด ตอนบนรถ อาจจะมัวๆนิดนึงนะ
จบเป้าหมายการช็อปที่ตลาด เราตีรถกลับชายแดนกันเลย
จากประมาณ9:30 ถึงแถวปอยเปตประมาณเที่ยงพอดี
เราไปรับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์กันในคาสิโน
เสียใจนะในนั้นเค้าห้ามถ่ายรูป ^^
รับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ก็ทำการติดต่อข้ามแดนมา
อากาศตอนนั้น แดดร้อนมากกกกก
รถก็คนละคันกับตอนมา แอร์ไม่สู้อากาศข้างนอกเลยสักนิด - -"
กำลังมุ่งหน้าเข้าแดนไทย ^^
แน่นอนว่ามาชายแดนสระแก้ว
จะไม่แวะ ตลาดโรงเกลือคงเป็นไปไม่ได้
^_^ โปรแกรมสุดท้าย คือ ช็อป อีกแล้ว 555
ส่วนสมาชิกบ้านเรารึ เดินเล่น ขับรถกอล์ฟเล่น
เพราะไม่รู้จะซื้ออะไรกลับกัน ฮาาาา
จบทริปสักที เย้!!! ^_^
ออกจากสระแก้วประมาณ ห้า โมง เย็น ค่ะ
ถึงบ้านก็เที่ยงคืนพอดีเลย
สำหรับทริปนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ชอบอยู่พอสมควร
เพราะเป็นนักศึกษาประวัติศาสตร์ (ศิลปะ)
ได้ไปพบ ไปเห็น วัตถุของจริง
ถึงจะเป็นลักษณะทัวร์ที่มีข้อจำกัดของเวลาก็ตาม
อย่างน้อยก็ได้ไปเห็นประเทศเพื่อนบ้าน
เห็นว่าเค้าอยู่กันยังไง จากก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอะไรในหัวเลยสักนิด
จบท้ายขอเอาข้อความที่ได้จากทริปนี้
ทิ้งท้ายไว้ให้อ่านกันนะคะ
"อย่าให้เรื่องราวในประวัติศาสต ร์ มาสร้างความเกลียดชังต่อกันระหว ่างชนชาติหรือระหว่างมนุษย์ ถึงแม้จะต่างชาติ ต่างภาษา แต่ความรักความเอื้ออาทรต่อกัน สามารถมีให้กันได้โดยไม่ต้องตั้ งแง่ หรืออคติต่อกัน"
การได้ไปเห็นบ้านเมืองของประเทศ เพื่อนบ้าน มันคือโอกาสเปิดโลกอีกด้านให้เร าได้คิดและมองอย่างเข้าใจมากขึ้ น ในฐานะนักเรียนประวัติศาสตร์ เราแนะนำให้คนเรียนรู้ประวัติศา สตร์ แต่ไม่ได้อยากให้ใครใช้ประวัติศ าสตร์เป็นเครื่องมือทำร้ายกัน "ประวัติศาสตร์" อาจไม่ใช่สาขาที่ตีตลาดทำงานมาก นัก แต่อย่างน้อยมันเป็นรากฐานของคว ามเข้าใจ "คน" และ "สังคม" ที่สามารถร่วมงานกับศาสตร์อื่นๆ ได้ดีไม่แพ้ใคร
การได้ไปเห็นบ้านเมืองของประเทศ
ขอบคุณสำหรับการติดตาม โพสหน้าจะเขียนเรื่องอะไรดีหน๊อ ^^