31 มีนาคม 2557

บันทึกการเดินทาง Trip to Cambodia วันที่ 2

เช้าวันที่ 2  (27 มีนาคม 2557) เราเริ่มต้นวันแต่เช้าเลย
รหัสนัดหมายคือ 6 -7 -8 ใครเคยไปทัวร์ท่องเที่ยวคงรู้จักดี
8 นาฬิกาโดยประมาณเราเดินทางออกจากโรงแรม
จุดหมายแรกคือ ปราสาทบายนค่ะ อยู่ในนครธม
อยู่ในเขตเดียวกันกับปราสาทนครวัด
เขาเรียกเป็น Archaeology park ทำนองนี้
ความหมายเดียวกันกับคำว่าอุทยานประวัติศาสตร์บ้านเรา
ปราสาทบายน สร้างสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
ยุครุ่งเรืองของกษัตริย์ยุคสุดท้ายของกัมพูชา
ที่เป็นภาพจำทั่วไป คือ มีใบหน้าคนประดับอยู่บนยอด
บ้างกล่าวว่าเป็นใบหน้าพระโพธิสัตว์ บ้างก็ว่าเป็นพระพักตร์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
ส่วนไกด์ท้องถิ่นบอกเราว่า  เป็นพระพักตร์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ค่ะ

เวลาเราค่อนข้างน้อยค่ะ เลยเดินขึ้นไปชั้นบนเลย ^^
นักท่องเที่ยวเยอะมากกกกก ถ่ายมามีแต่หัวคน 555
ลงรูปตัวเองบ้างเดี๋ยวจะหาว่าไปไม่ถึง ^^

ที่ต่อไปเลยดีกว่าเนาะ มีชื่อว่า ปราสาท ตาพรหม ค่ะ
นึกภาพง่ายๆคือที่ที่มีปราสาทอยู่กับรากไม้ ต้นไม้ใหญ่
คนเยอะอีกเหมือนกัน =,=
ไปเพื่อถ่ายกับรากไม้เลยทีเดียว


อ้อ ลืมบอกไป ทริปนี้ทางทีมงานทัวร์จ้างตากล้องตามค่ะ
เก็บภาพให้เราด้วย แล้วเขาก็ไปล้างอัดมาขายให้เรานะ 555





อยากจะเอารูปให้ดูเยอะๆนะ แต่นักท่องเที่ยวเยอะมากจริงๆ 
รูปที่มีจึงเป็นมุมเสย ดังเช่นรูปนี้ ^^


หลังจากพักกลางวัน เราก็ไปปราสาทแห่งที่ 3 กันต่อ
เอารูปอาหารกลางวันมาด้วยนะ ^^



ปราสาทบันทายศรี หรือ Banteay Srei 
ที่นี่งานสลักยังเป็นของเดิม ที่สวยงามมากกกกกกกก
สมาชิกไปฟังไกด์บรรยาย แต่เราวิ่งถ่ายรูปค่ะ 5555 ^^



เอารูปชาวคณะลงบ้าง เป็นครูโรงเรียนเดียวกับคุณแม่เอง คนกันเองพี่ๆน้องๆ ^^


ว่าจะไม่เข้ากล้องแล้วนะ โดนเรียกถ่ายจนได้ 555 เดินรั้งท้ายจ้ามัวแต่ถ่ายรูป ^^


ลวดลายของเสาประตูและ เสาประดับกรอบสมบูรณ์มากที่ปราสาทบันทายศรี

ย้ายมากันที่ ไฮไลท์ของงานกันเลยดีกว่า "ปราสาทนครวัด"
ที่ถูกตั้งให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
มันก็มหัศจรรย์จริงๆนะ ไม่รู้ว่าสร้างกันมาได้ยังไง ยิ่งใหญ่มาก
นครวัดเป็นศาสนสถานขนาดใหญ่ ไม่ใช่เมืองอาศัยดังเช่นนครธม
แรกเริ่มสร้างถวายในไวษนพนิกาย ต่อมาใช้เป็นพุทธสถาน
ความใหญ่ไม่ต้องพูดถึงเลย ^^ กว้างมากกกกกก เข้ามา 3 วันก็เดินไม่ทั่วจริงๆ


เราได้เดินขึ้นไปชั้นบนกันด้วยค่ะ ^^ สูงมากกก การสร้างสูงๆเช่นนี้ เวลาเราเดินขึ้นก็ต้องระมัดระวัง เป็นท่าทางที่นอบน้อมเคารพสิ่งที่ประดิษฐานด้านบนด้วย ^^ ภาพนี้ ถ่ายตอนลงมาแล้ว เหงื่อซกเลย


เอาหล่ะ สุดท้าย ตอนเราไปเวลาเราน้อย และไม่อยากให้โพสยาวเกิน ^^
เป็นเพียงบันทึกการเดินทางว่าไปไหนมาบ้างเท่านั้นเอง ^^ 

จบไปอีก 1 วันสำหรับทัวร์ในกัมพูชา นครวัดเป็นปราสาทแห่งสุดท้ายค่ะ
4 ปราสาทในวันเดียว เหนื่อย ล้า มาก จริงๆ โฮวววววว



ก่อนไปรับประทานมื้อเย็น ไกด์แถมให้หนึ่งแห่ง อย่าเพิ่งตกใจรูปนะคะ
ไกด์บอกว่าเป็นที่เก็บกระดูกของบุคคลที่เสียชีวิตเมื่อตอนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ค่ะ
อยู่ในวัดแห่งหนึ่งซึ่งเราก็อ่านชื่อไม่ออก 
ตรงนี้น่าจะคล้ายๆที่ Killer Field ที่พนมเปญนะคะ เราก็ไม่เคยติดตามว่าเป็นยังไง
ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เขาเอามาเก็บไว้ 

จบวันแล้วเราไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้าน Tonle Sap Restaurant ค่ะ
เป็นอาหารบุฟเฟ่ มีการแสดงด้วย ^^


เย่ จบแล้ว กว่าจะอัพจบได้แต่ละวัน ต้องจัดการกับรูปจำนวนมาก 555 กว่าจะเลือกได้
ขอบพระคุณสำหรับการติดตามนะคะผู้อ่านทุกท่าน ยังเหลือวันกลับอีกวันนะ ^^


30 มีนาคม 2557

บันทึกการเดินทาง Trip to Cambodia วันที่ 1

บันทึกการเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่
วันที่ 26 มีนาคม 2557 ค่ะ ไปกับ "ครอบครัวบัวบาน" ของเราเอง ^^
เวลา 01:00 น. ออกเดินทางจากจังหวัดชัยภูมิ
สู่ชายแดน กัมพูชา จังหวัดสระแก้ว
นำโดยทีมงาน พีพีสยาม
6:00 น. โดยประมาณ ถึงเขตจังหวัดปราจีนบุรี แวะเข้าห้องน้ำ ต่อด้วยกินข้าวเช้า
ประมาณ 8:00 น. ถึงด่านชายแดน

สักประมาณ 8:30 น. ก็ติดต่อข้ามแดนไปฝั่งกัมพูชาเรียบร้อย 
เราไปเป็นกรุ๊ปทัวร์ค่ะ ^_^ สมาชิก 40 คน


เข้าเขตแดนกัมพูชา เปลี่ยนรถ เดินทางสู่เมืองเสียมราฐ หรือ เสียมเรียบค่ะ
ระหว่างทางก็ไม่มีอะไรต่างไปจากบ้านเรามากนัก
ลองนึกภาพชุมชนชนบท สองข้างทางมีแต่ทุ่งนา นั่นแหละ 
ระหว่างทางอธิบายอะไรไม่ได้มากนะคะ เพราะหลับตลอดทาง
^^


ระหว่างทางก็พบไกด์นำเที่ยวจากฝั่งกัมพูชา พูดคุยกันไปเรื่อยๆ
จุดหมายแรกของการเดินทางครั้งนี้  คือ โตนเลสาปค่ะ ^^



ไปหน้าน้ำแล้ง ทางลงชันมากกกกก บอกเลย =0=

เราล่องเรือไปตามน้ำ เพื่อออกสู่ทะเลสาปน้ำจืดที่เรารู้จักกันดี
สองข้างทางก็เป็นธรรมชาติ ต้นไม้ รวมถึงวิถีชีวิตของคนกัมพูชา
ที่ประกอบอาชีพหาปลา ฝากชีวิตไว้กับแหล่งน้ำแห่งนี้
เรือพาเราไปที่แพกลางน้ำค่ะ จุดชมวิว
เวลานั้นคือ แดดร้อนมากกกกกกกกกกก = ="
บนเรือก็เป็นร้านรวงขายอาหาร ขายข้าวของ
หน้าตาไม่ค่อยต่างกับบ้านเราเท่าไร
ไกด์บอกเราว่า ของดีของเค้า ส่วนหนึ่งก็คือมาจากประเทศไทยนี่หละค่ะ




นั่งเรือไปกลับใช้เวลาประมาณเกือบ2ชั่วโมงได้ค่ะ 
หลังจากนั้นทีมงานทัวร์ก็พาเราไปเช็คอินที่โรงแรม
โรงแรมมีชื่อว่า Smiling Hotel & Spa (เขาบอกว่าระดับ4ดาว)
ภาพรวมของโรงแรมก็ถือว่าดีนะ ห้องพักก็ดูโอเค ^^
รีวิวให้เลยละกัน 555 อาหารเช้าเป็นบุฟเฟ่ค่ะ 
อัพลงแต่รูปที่นอนละกันนะ รูปเยอะเดี๋ยวเล่าไม่จบวัน ^^

จุดหมายที่ 2 ของวันแรก คือ จะได้ไปขึ้นเขา ชื่อว่าพนมบาเค็ง หรือ บาแค็ง
ข้างบนมีปราสาท เป็นศาสนสถานบนเขาค่ะ
ก่อนจะขึ้น เราต้องไปเข้าแถวถ่ายรูปลงตั๋วเข้านครวัดกันล่วงหน้า ของวันรุ่งขึ้น  ราคา 20$
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีการเปลี่ยนรถกันอีกด้วย เป็นรถเล็ก ไม่เกิน 20 ที่นั่ง เพราะเกี่ยวกับน้ำหนักและแรงที่จะกระทบกับโบราณสถานที่อยู่ภายในนี้

เขาบาเค็งเราเดินขึ้นกันค่ะ เหนื่อยเวอร์ 
ขึ้นไปเมฆก็เอาดวงตะวันไปก่อนจะเห็นมันลับฟ้า
เราเลยได้ไปชมปราสาทบาแค็งกันแทน
ปราสาทแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเขา เป็นปราสาทบนฐานเป็นชั้น สร้างในไศวนิกาย
มีปราสาทประธาน ล้อมรอบด้วยปราสาทบริวาร ทุกมุมทุกด้าน และทุกชั้นด้วย (มี5ชั้น)
ข้อมูลอื่นๆไปหาอ่านเพิ่มกันได้เนาะ ^^  จะหามาให้ก็กลัวจะยาวไป แหะๆ


ภาพนี้ถ่ายจากมุมด้านล่างๆมองขึ้นไปด้านบนค่ะ 
ปราสาทที่อยู่ล้อมรอบทุกหลังจะหันหน้าเข้าหาปราสาทประธาน
 ส่วนตัวจะถ่ายแนวเก็บข้อมูลทางศิลปกรรมมาด้วย 
รูปค่อนข้างกระจาย ขอเอาลงให้ชมภาพเดียวนะคะ ^^


พอตะวันจะลับฟ้า เวลาประมาณ 18:30 น. 
นัดหมายที่เชิงเขานั้น แล้วไปรับประทานอาหารเย็นกันค่ะ
ร้านชื่อว่า สวนอาหารสวัสดี แน่นอนว่าเจ้าของเป็นคนไทยและเป็นร้านอาหารไทย ^^ 
ทัวร์สั่งอาหารไทยไว้ให้เราค่ะ รสชาติถือว่าผ่าน ใกล้เคียงอาหารไทยแล้ว อร่อยๆ



เวลาประมาณ 20:00 น. ได้เวลากลับเข้าที่พักค่ะ 
เป็นวันที่เหนื่อยมากเพราะเราเองต้องเดินทางต่อเนื่อง
จากปราจีนฯ กรุงเทพฯ แล้วกลับไปเริ่มต้นที่ชัยภูมิ ก่อนจะมุ่งหน้าไปกัมพูชา
แถมเที่ยวต่อ ทั้งวันเลย แต่ก็สนุกดีนะ ^^
อากาศค่อนข้างร้อนค่ะ กลับโรงแรมมาแทบสลบ
ของวันนี้มีอยู่ 1 ปราสาทคือบาแค็ง
วันต่อไปมีถึง 4 ปราสาทค่ะ ติดตามโพสต่อไปว่าจะมีที่ใดบ้าง 
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ^^


22 มีนาคม 2557

อีสา งานละครดีดีที่ประทับใจ


โพสนี้เป็นบันเทิงสักนิด หลังอัพเนื้อหาดนตรีไทย ศิลปกรรมไทย มาติดๆกันหลายเรื่อง ^^
จากการติดตามละคร อีสา รวีช่วงโชติ มากันสักพัก
คิดไว้ว่าจะเขียนรีวิวแบบคอนเสิร์ต4โพธิ์ดำอีกสักที ^^
ด้วยความรู้สึกที่พรั่งพรู ชอบมากกกก 5555
ใครยังไม่ได้อ่าน4โพดำ ย้อนกลับไปอ่านได้นะคะ
ส่วนใครยังไม่เคยดูอีสา ก็ไปดูย้อนหลังด่วนเลย ละครดีละครเด็ด 555

เอาเป็นว่าเป็นภาพคร่าวๆ
เป็นความประทับใจกับละครเรื่องนี้แล้วกันค่ะ
บอกก่อนเลยไม่เคยดูเวอร์ชั่นไหนมาก่อน
หรือถึงเคยดูก็เด็กมากกกกไม่น่าจะรู้เรื่อง
การดูละครอีสาฉบับ๒๕๕๗นี้ เลยไม่ได้ไปเปรียบกับใครเลยจริงๆ ^^

เริ่มต้นกันที่นักแสดงนะคะ เรื่องนี้นักแสดงคับคั่ง เก่งๆทั้งนั้น
เริ่มจากใครไปไม่ได้นอกจากพี่นุ่น ตัวเอก นางเอก ของเรา
ส่วนตัวชอบมานานแล้ว พอได้ทราบว่าเป็นอีสา เลยต้องติดตาม
พี่นุ่นเป็นนักแสดงที่เก่งอยู่แล้วค่ะ เล่นแล้วเราดูไปก็อิน
นอกจากนั้นยังประทับใจหม่อมพริ้มด้วย คุณนกสินจัย
เล่นจนเราเชื่อว่าท่านเป็นคุณหญิงคุณนายจริงๆ  ^^
ทุกคนในเรื่อง ตั้งแต่รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ รุ่นไหนๆ  ตัวหลักตัวประกอบ
ต่างทำให้เราเชื่อมากๆกับสถานการณ์ในละคร
กล่าวถึงไม่หมดอย่างงอนนะ 555 ให้ไล่ทั้งเรื่องคงไม่ไหว

ต่อมาเป็นเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม เรื่องนี้ให้ความรู้สึกว่าเป็นยุคนั้นจริงๆ
ความเป็นอดีต บอกผ่านมาได้ดีผ่านเสื้อผ้าค่ะ
มีแต่ชุดสวยๆ ซึ่งไม่แน่นะ แฟชั่นเหล่านั้นอาจจะวนกลับมาก็ได้นะ ^^

อีกเรื่องคือเพลง เพลงประกอบในแต่ละช็อตแต่ละฉาก
เป็นส่วนหนึ่งของการดึงอารมณ์คนดู
ให้สามารถอินไปกับเรื่องราวได้ค่ะ
ประทับใจมากฉากตอนโรงละครมาลัยภิรมย์กำลังจะปิดตัว
แล้วทุกคนมาร่ำลา แล้วก็ร้องเพลงออแลงซายกัน
ฉากนั้นบอกตามตรง น้ำตาร่วงตามนักแสดงเลย T^T
และยังมีอีกหลายฉากนะคะ ที่เปิดเพลงมาบิ้วได้ดี จำไม่ได้ละ  ^,^

สุดท้าย ถึง คุณผู้กำกับ คือผู้สร้างให้ทั้งหมดทั้งมวล ประกอบกันออกมาได้ดี
เค้าทำละครพีเรียดออกมาได้ดีค่ะ งานละเอียด ชอบมุมมองของพี่เค้า
ซึ่งถ้าไม่มีผู้กำกับ  ถ้าไม่มีนักแสดงที่เก่ง  และ ทีมงานเก่งๆ
ภาพรวมของละครจะออกมาดีไม่ได้เลย

อ๊ะ อ๊ะ เอาไว้แค่นี้ก่อนละกัน  "ละครยังไม่จบนะคะ"
โปรดติดตาม เป็นกำลังใจให้ทีมงาน ละครเรื่อง อีสากันต่อ
วันพุธ - พฤหัสฯ ช่อง 5 นะคะ
ลองดูว่างานละครเรื่องนี้ดีอย่างที่เราบอกหรือเปล่า
คือเรามาอัพสวนกระแส สามีตีตรามากเลยอ่า 5555
ขอบพระคุณคุณผู้อ่านทุกคนนะคะ จุ๊บๆ

ว่าด้วยเรื่องดนตรีไทย #3 เครื่องดนตรี-ระนาดทุ้มเหล็ก



ระนาดทุ้มเหล็ก

    ระนาดทุ้มเหล็กเป็นเครื่องดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ได้ทรงมีพระราชดำริสร้างขึ้น โดยต้องการให้ใช้คู่กับระนาดเอกเหล็ก  มีระดับเสียงเสียงเหมือนระนาดทุ้มทุกประการ มี 16-17 ลูก   ระนาดทุ้มเหล็กมีประสมอยู่ในวงดนตรีไทยปี่พาทย์เครื่องใหญ่ วงดนตรีไทยมโหรี วงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์

     ระนาดทุ้มเหล้กบรรเลงเหมือนกับระนาดทุ้มทุกประการเลย เป็นทำนองห่างๆเล่นเสียงขัดกับบรรเลงหลักอย่างระนาด  ถ้านึกเอาง่ายๆก็เหมือนเป็นเสียงเบสในวงดนตรีค่ะ ^_^

       บอกอีกครั้ง ไม่ได้บันทึกข้อมูลยาวๆเพื่อเผยแพร่ทางวิชาการแต่อย่างใดนะคะ ที่เขียนเพราะชอบและอยากเล่าให้ฟังสั้นๆ เผื่อว่าจะเป็นที่น่าสนใจกับท่านผู้อ่าน อยากจะสัมผัส "ดนตรีไทย" 
       ระนาดทุ้มอาจจะไม่มีให้เห็นกันบ่อยเท่าระนาด จะเข้ หรือซอ แต่เป็นกำลังสำคัญที่จะทำให้การบรรเลงไพเราะขึ้น  

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ


21 มีนาคม 2557

งานศิลปกรรมไทย : พระธาตุหนองสามหมื่น จ.ชัยภูมิ



 พระธาตุหนองสามหมื่น  บ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ
เป็นพระธาตุย่อมุมไม้ ๑๒ ก่ออิฐ ฉาบปูน ฐานสี่เหลียมจัตุรัส  มีซุ้มจรนำ๔ทิศ ประดิษฐานพระพุทธรูปยืน  ส่วนยอดเป็นทรงบัวเหลี่ยม ไม่ปรากฏประวัติผู้สร้าง แต่รูปแบบทางศิลปกรรมน่าจะอยู่ในสมัยสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช แห่งเวียงจันทร์
(ที่มา : ธาตุอีสาน : วิโรฒ ศรีสุโร)

รูปนี้ได้ไปถ่ายมาเองเมื่อวันมาฆบูชาที่ผ่านมา (ก.พ.2557) ^^ ขออภัยใส่filterเยอะไปหน่อย  ที่เห็นมีประดับธงริ้วอาจเพราะอยู่ในช่วงงานบุญวันพระใหญ่  ปัจจุบันองค์พระธาตุเอียงไปข้างหนึ่งค่ะ มีการทำเหล็กมาค้ำเอาไว้ หากผู้สนใจสามารถเดินทางมาชมได้นะคะ อาจไม่ใช่โบราณสถานที่มีชื่อเสียงมาก แต่เป็นอีกที่หนึ่งที่มีคุณค่าด้านศิลปะและวัฒนธรรม

15 มีนาคม 2557

ว่าด้วยดนตรีไทย #2 เครื่องดนตรีไทย:ฆ้องวงใหญ่



เกร็ดความรู้ที่ไม่ได้เน้นวิชาการ ให้เอาไปทำรายงาน 

แต่บอกเล่าให้ได้อ่าน  ในฐานะนักดนตรีไทยคนนึง ^^

ฆ้องวงใหญ่  

เป็นเครื่องดนตรีที่มีพัฒนาการมาเป็นลำดับ จาก ฆ้องเดี่ยว ฆ้องคู่ ฆ้องราง 

ฆ้องวงทำจากต้นหวายโป่ง ดัดเป็นวงโค้งเกือบรอบตัวผู้ตี 

ยกเป็นร้านขึ้นจากพื้นประมาณ 24 เซนติเมตร  

ลูกฆ้องวงใหญ่มี 16 ลูก ขนาดตั้งแต่ใหญ่ไปหาเล็ก  

รียงลำดับ ตั้งแต่เสียง ต่ำไปหาเสียงสูง  

ฆ้องวงใหญ่ใช้บรรเลงทำนองหลักของเพลง  

ไม้ตีทำด้วยแผ่นหนังดิบตัดเป็นวงกลม 

เจาะกลางสอดไม้สำหรับมือถือ วงหนึ่งใช้ไม้ตี 2 อัน ถือตีข้างละมือ

ผู้ที่หัดเล่นดนตรีไทย จะถูกฝึกให้เล่นฆ้องวงใหญ่เป็นอันดับแรก 

เพื่อเป็นพื้นฐานของการเล่นเครื่องดนตรีไทยชิ้นอื่นๆด้วย

ทั้งทักษะเรื่องของทำนองเพลงและลูกเล่นการตี

แต่ฆ้องวงใหญ่ก็เป็นเครื่องดนตรีที่เล่นยากอีกชิ้นหนึ่ง

จะต้องใช้ทักษะและสมาธิในการจดจำ ทางการบรรเลงให้ดี

ส่วนตัวชอบเล่นฆ้องวงค่ะ สนุกดี ^^ 555 

ถ้าถามว่าให้สอนดนตรีไทยทางฆ้องวงน่าจะสอนง่ายสุดละ คิดว่านะ ... ^____^

12 มีนาคม 2557

--(ความคิด)--

... บางทีการคิดอะไรไปทางลบบ้าง... มันอาจจะทำให้รู้สึกดี ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงดีกว่าที่คิดไว้ แต่การคิดไปเองด้านลบบ่อยไป อาจย้ำด้านลบในความรู้สึกโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า? บางครั้งอาจแสดงความเห็นหรือคิดไว้เป็นกลางๆเท่าที่เห็นตามความเป็นจริง...จะดีกว่าไหม?ถ้ามัวตั้งแง่แต่ด้านแย่แล้วทำให้ความคิดในแง่ลบในใจเราชัดเจนขึ้น มันอาจกลายเป็นความกังวล คิดมาก ที่อาจจะเกิดขึ้นในใจเราทุกครั้งไป (^,^)
...12032014--Pk_pongpaka (Thelazywriter)



--มอง--

คือชอบเขียน นึกอะไรออกก็บันทึกเอาไว้ ได้จังหวะเลยเอามาแบ่งปัน ^^)

...ชีวิตคนเราก็ย่อมเจอเรื่องทุกข์ยากลำบากใจด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่เรามองมันอย่างไร...
ถ้ามองด้วยสติ ค่อยๆคิด ค่อยๆแก้ไข ปัญหามันก็ทางจะคลาย ถ้ามองด้วยความขุ่นข้องหมองใจ จะคิดแก้ไขอย่างไรปัญหาก็มีแต่สร้างปม ทับถมเป็นทุกข์กับหัวใจเราไปเรื่อยๆ... Pk_pongpaka (Thelazywriter)