01 พฤษภาคม 2554

ทัวร์ พระธาตุ ไหว้พระ ขึ้นดอย 2

เช้าวันต่อมา หลังจากไปเชียงราย
ไปต่อกันที่ วัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่

คนปีชวดเน้อ ^___^

หลังจากนั้น ไปกินพิซซ่า ร้านเล็กๆเป็นอาหารเที่ยง
ก่อนจะมุ่งหน้ากลับเข้าเมืองเชียงใหม่
ไปที่เทพเจ้าทันใจ และไปที่น้ำพุร้อนสันกำแพงเจ้า

ภาคค่ำเราไปเดินต่อกันที่ ถนนคนเดิน วัวลาย
แล้วไปชิมไอศกรีม ที่ iberry ^_^ ที่ที่มาเชียงใหม่แล้วต้องไป 555


คืนนั้นก็เตรียมตัวไปต่อกันที่
วัดพระบรมธาตุ หรือ พระบรมธาตุบ้านตาก จังหวัดตาก
คนปีมะเมียเจ้าา ^__^
บรรยากาศดีดี ฝนตกตลอดทาง เลย

ไหนๆมาถึงตาก ก็ไปอีกหลายที่

ทั้งเจดีย์ยุทธหัตถีพ่อขุนรามฯ

เขื่อนภูมิพล

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน





ที่สุดท้ายสำหรับเด็กประวัติศาสตร์ 555 วัดศรีชุม จังหวัดสุโขทัยจ้า
ตั้งใจจะไปหลายทีแล้ว คราวนี้ไปก่อนจะมุ่งหน้าไปพิษณุโลก

ที่ท่องเที่ยวสุดท้าย ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน
คือ วัดหลวงพ่อพุทธชินราชนั่นเอง
มาพิษณุโลก ต้องมาไหว้ เนอะ
^_^

ตีรถกลับบ้าน ค่ำคืนของวันที่ 25 เมษายน
ขับรถกันมาราธอนมาก
ขอบคุณที่ติดตาม
เจอกันใหม่ ทริปหน้า จ้า ^____^

ทัวร์ พระธาตุ ไหว้พระ ขึ้นดอย

ช่วงเวลาปิดเทอม เดือนที่ผ่านมา ข้าเจ้าได้ไปแอ่วเมืองเหนือกับครอบครัว
(ใส่คำเมืองนิดหน่อยให้เข้าก่ะบรรยากาศ 555)
เป็นการเดินทางกับครอบครัวที่นานหลายวันในรอบกี่สิบปี 55
โดยการวางแผนไปไหว้พระธาตุประจำปีเกิด ของสมาชิกในบ้าน
ซึ่งก็มี .... ปี ชวด...ปี ขาล...ปี มะเมีย....และ ปี กุน
ซึ่งทั้งหมดนี้ เหมาะเจาะ มันอยู่ทางภาคเหนือทั้งหมดเลย :')
ผู้นำทางของเรา มาจาก google maps ล้วนๆ ฮ่าๆๆ
เราก็คุ้นชินเส้นทางอยู่แล้วทางไปบ้านยายที่พิษณุโลก ที่เหลือ ลุยต่อเอง
ที่แรก เดินทางจากบ้านวันที่ 20 เมษายน ตั้งแต่ ตี หนึ่ง กว่า
มุ่งหน้าไปที่ วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ ประจำปีขาลค่ะ


หน้าตาคนปีขาล เจ้า 555



จากนั้นเดินทางต่อไปที่ อนุเสาวรีย์พระนางจามเทวี
อยู่กลางเมืองลำพูนเลยเจ้า .... :') ทางผ่านขึ้นเชียงใหม่พอดี อิอิ
อันนี้ผ่าน ไหนๆแล้วก็แวะสักการะด้วยเลย

ร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
55555555555

จากนั้น เรามุ่งหน้าไปเชียงใหม่ทันที ด้วยความเหนื่อยอ่อน
พักผ่อนกันที่บ้าน เตรียมตัววันรุ่งขึ้น ไปดอยตุง จังหวัดเจียงฮาย :')

เช้าวันต่อมาวันที่ 21 เมษายน เราออกเดินทางจากที่พักเกือบเจ็ดโมงเช้า
จากเชียงใหม่ ไปเชียงราย ใช้เวลาไปกว่า 5 ชั่วโมง
จนกระทั่ง เราไปถึงพระธาตุดอยตุง
เดินทางยาก ขอบอก 555 เอารถไปเอง แต่ขึ้นไปแล้ว คุ้มมากค่า :')


สองท่านนี้ สปอนเซอร์หลักค่า ฮ่าๆ ทางข้างหลังขับรถไปต่อได้อีกนะนั่น
แต่โชเฟอร์ บอกว่า ไม่เอาแล้ว
จริงๆก็ตั้งใจเดินขึ้น ไปไหว้พระธาตุ
ต้องเดินบ้าง จริงมั้ย? :) ถ้าเดินไหวนะ

หนทางเดินเจ้า เดิน เดิน เดิน
กระทั่งมาถึง พระธาตุดอยตุง
ที่เห็นเป็นการสร้าง เจดีย์ครอบอีกทีนะคะ จะกันแดดกันฝน
องค์จริงอยู่ข้างในนั้นแหละค่ะ


หน้าคนปีกุนเจ้า ฝาแฝดข้าเจ้าเอง 555 ไม่ใช่หล่ะ ;'P
ล้อเล่นๆ พี่ชายข้าเจ้าเองเน้อออ :)

ยังคงลั้ลลาอยู่นาน เพราะขึ้นมายากจริงๆ
เรื่องเล่ากันในครอบครัว อยู่ที่ระหว่างทางขึ้น
เกิดเหตุฉุกเฉินเบาๆเกี่ยวกับการขับรถขึ้นดอย
ไม่มีภาพ เพราะอารมณ์ลุ้นระทึกกันอยู่ 5555
แต่มันก็ผ่านไปด้วยดี อิอิ


ไหนๆก็มาถึง เลยแวะพระตำหนักด้วย แต่สปอนเซอร์ไม่มีงบให้ไป
เลยได้เดินชมด้านนอกเท่านั้นเองค่ะ :') แล้วก็ไปกินข้าวกลางวันกัน


ระหว่างทาง ผ่านเมืองเชียงราย
ก็แวะสักการะ อนุเสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย

ไปไหว้ ไปสักการะ ทำบุญอย่างเดียวเลยงานนี้
ระหว่างทาง(อีก) ก่อนกลับเชียงใหม่
ก็แวะที่ วัดร่องขุ่น เจ้า
ศิลปะนั้น งามเลิศ :')

ไปก็เย็นแล้ว เลยไม่ได้เข้าอะไรสักก่ะอย่าง
แต่ได้ไปเห็นก็ดีใจแล้วแหละ :')

ส่วนตรงนี้ ห้องน้ำ เจ้า :)


ค่ำแล้ว เดินทางกลับเชียงใหม่ กัน
ถึงบ้าน ก็ค่ำ สองสามทุ่มโน่น
ติดตาม ภาคต่อ บอกแล้ว
มันมีหลายวัน หลายที่อีกตะหาก
ขอบคุณที่ติดตามเน้ออ

^__________^

31 มีนาคม 2554

จำปาศักดิ์ - ปากเซ

อัพเดตทริปเดินทางวันนี้ ไปเที่ยว พื้นที่ลาวใต้มา แขวงจำปาศักดิ์ เมืองปากเซ
ออกเดินทางไปตั้งแต่คืนวันที่ 26 มีนาคม กับทีมงานรถ ตาเนียร ทัวร์
และไกด์จากคุณเก้าทัวร์ โฆษณากันนิดนุง ฮ่าาา
จุดแรกไปกินอาหารเช้ามื้อแรกกันที่บนเขื่อนสิรินธร
ก่อนออกเดินทางข้ามฝั่งลาว

อากาศดี ถึงหนาวเลยทีเดียว โชคดีมากกับการเดินทางทริปนี้
ไม่เจออากาศร้อนจัด ฮ่าๆๆ

ภาพข้างบนนี้ คือด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลฯ
ดีไซน์สวย กำลังสร้างเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆเลยแหละ
เดินผ่านไปในคอกรั้ว ฮ่าๆๆ



กำลังจะออกต่างประเทศแล้วนะ อยู่ระหว่างทางออกไปประเทศลาว
เส้นทางเดินซะไกล รถไปรออยู่ฝั่งตรงข้าม

ข้ามมาต่างประเทศแล้วจ้า ร้านค้า ปลอดภาษีที่ฝั่งลาว
จัดแต่งเป็นห้างเล็กๆ สวยเลิศ ฮ่าๆ :)

หน้าตาไกด์สาวลาวคนสวย
ชื่อเต็มๆว่ายังไงไม่รู้ฟังไม่ทัน แต่เรียกกันว่า"ดาว"


เดินทางมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองปากเซ

จุดแรกของวันนี้ คือ น้ำตกคอนพะเพ็ง
ไข่มุกแม่น้ำของ (ไนแองการ่าแห่งเอเชียอาคเนย์)


ภาพอาหารมื้อเที่ยงของวันนี้ (27มีนาคม)
อาหารพื้นบ้านง่ายๆ คุ้นหน้าคุ้นตากันดี :)

ต่อไปก็ไปชมน้ำตกคอนพะเพ็งกันเลยจ้า

ไนแองการ่า แห่ง เอเชียอาคเนย์
โชคดี อากาศดีมากๆๆ
ไม่ร้อนจัดเหมือนกับที่ไกด์ลาวบอกเพราะปกติแล้ว ลาวจะร้อน
หลังจากรีบๆถ่ายรูปกันแล้ว ก็วิ่งขึ้นรถ ไปจุดต่อไป ทริปนี้เวลาน้อย
ต้องทำเวลากันเลย ไม่งั้น ไม่ทัน จะไม่ได้ดูที่ต่อไป

สถานที่ต่อไป คือ น้ำตกหลี่ผี
ต้องเล่าถึงการเดินทาง เพราะ มันไปยากลำบากจริงๆแต่สนุก
นั่งรถออกจากคอนพะเพ็ง เพื่อมาต่อเรือข้ามไป
และต้องนั่งรถต่อไปอีก กี่กิโลเมตร จำไม่ได้แล้วแฮะ :P

นั่นคือเรือที่จะเดินทาง ผ่าน แม่น้ำโขง
เดินไปขึ้นตรงกลางแม่น้ำ
ช่วงที่มีดอนดินเยอะมาก
ที่เรียกกันว่า "มหานทีสี่พันดอน"

วิวสวยงาม อากาศดี :) แม่น้ำเขียว สวยมากเลยยย

เราอยู่กลางแม่น้ำ โฮ้ววววววว
ไกลฝั่งจะตายไปเนี่ย ฮ่าๆๆๆ

บรรยากาศสองข้างทางบนเรือ สวยย :)
นั่งเรือไปต่อรถ ไกด์ลาวบอกว่า "รถหลายแถว"

ถึงฝั่งแล้วจ้า เตรียมตัวนั่งรถหลายแถว
มาดูกันต่อ รถหลายแถวเป็นยังไง ฮ่าๆๆๆ


มันก็คล้ายๆรถที่นั่งกันในสวนสัตว์นั่นแหละค่ะ
แต่ด้วยเส้นทาง แบบว่า กลางทุ่งนาเลย
(รูปรถถ่ายตอนจะกลับ)
ไปแล้วก็ยังไม่ถึงน้ำตกหลี่ผีนะคะ ลืมรึยังเนี่ย
ต้องเดินเท้าต่ออีกประมาณ 200 เมตร

เดินๆๆๆจะถึงแล้ววววววว ฮ่าๆ

ถึงแล้วจ้าาา หลี่ผี การเดินทางลำบากแต่มาถึงก็สดชื่น
เอาความรู้มาให้อ่านกันสักนิด ...........

น้ำตกหลี่ผี หรือ หลี่ผี เรียก อีกชื่อ หนึ่ง คือ ตามสัมพะมิตร
น้ำตกหลี่ผี ตั้งอยู่ในเขต ดอนคอน ( ดอน หมายถึง เกาะ )
น้ำตกหลี่ผี เกิดจาก น้ำ ที่ไหลถาโถมผ่าน เกาะ เนินหิน ซึ่ง
เป็น โขดหิน แก่งหิน อัน แข็งแกร่ง ตกลงมาด้วยกำลังแรงแตก
เป็นละอองสีขาวไปทั่ว ระหว่าง ละอองน้ำตก กระทบ แก่งหิน
เกิดเป็น ละออง ปุย สีขาม ดูสวยงามตื่นตา ตื่นใจ สำหรับผู้พบเห็น
เป็นอย่างมาก หลี่ผี นั้น ส่วนมาก คนไทย ทางภาค อีสาน
จะคุ้นเคย กับ ชื่อนี้ เนื่องจาก มี ตำนาน หรือ เรื่องราว
ประวัติศาสตร์ ต่าง ๆ ล้วนมีความสำคัญ และ เกี่ยวข้อง
กับ หลี่ผี และ ความอุดมสมบูรณ์ ของ สัตว์น้ำ ปลา
ที่แห่งนี้ ยัง ชุกชุม อยู่ ณ ปัจจุบัน

หลี่ เป็น ภาษา ลาว หมายถึง เครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่งมีลักษณะคล้ายลอบ
ซึ่ง มีให้เห็น กัน ทั่วไป ทางภาคอีสาน ส่วนคำว่า ผี หมายถึงศพคนตาย
ซึ่งบริเวณ น้ำตกหลี่ผี จะมีกระแสน้ำไหลบ่าตามพื้นที่ราบผ่านแผ่นหิน
แล้วไหลตกลงมาตรงช่องซอกเขา ที่แตกแยก ออกจากกัน
กระแสน้ำสีเขียวเข้ม ในหน้าแล้งหรือสีชา ใน
ช่วงฤดูฝนจะไหลบ่าตกลงมาเบื้องล่าง
จากนั้นจึงไหลไปตามรอยแยกของซอกเขาเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร
จุดที่พบ ศพ ( ที่มาของคำว่า ผี และ สนธิ กัน เป็น หลี่ผี ) มากๆ คือ
บริเวณร่องหินของ น้ำตกหลี่ผี
บริเวณนี้กระแสน้ำจะไหลมารวมตัวกันเป็นแอ่งขนาดใหญ่
จากนั้นน้ำจะวนไปมาแล้วจึงไหลตกลงไป ด้านล่างผ่านซอก
และ หลืบหินแคบๆ ทำให้ ศพของทหาร
ใน สมัยสงครามอินโดจีนจำนวนมากลอยมาติดใน
หลี่จับปลา ชาวลาว จึงเรียก น้ำตก แห่งนี้ว่า หลี่ผี ......

ที่มา http://www.southlaostour.com/
index.php?lay=show&ac=article&Id=115143&Ntype=5
------------------------------
ได้ความรู้กันแล้ว ไปเดินทางกันต่อ :)
นั่นคือเดินทางเข้าที่พัก เพราะใช้เวลาไปทั้งวัน
แต่ละที่ค่อนข้างไกลกันมาก
เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเดินทาง

ที่พักของเรา กว่าจะมาถึงก็มืดแล้ว
ไกด์บอกเราว่าเคยเป็นวังเก่าค่ะ พอลาวเปลี่ยน
การปกครอง เลยกลายเป็นโรงแรม
(แถมชั้นบนๆยังสร้างไม่เสร็จ หยุดสร้างไปเฉยๆเลย)
ดีไซน์สวยค่ะ เหมือนวังจริงๆแหละ :)

เช้าวันใหม่วันที่ 28 มีนาคม ตื่นเช้ามาอากาศเย็นมากก
หลังกินอาหารเช้าเสร็จ เราก็เดินไปดูชั้นบนของโรงแรมกัน
มันมีหกชั้น แต่ใช้อยู่สองถึงสามชั้นเอง :) วิวสวยดี

ที่แรกของวันใหม่ นี้ คือ น้ำตกตาดฟานค่ะ
ก่อนจะไปน้ำตกตาดฟาน ไปแวะไร่ชา กันก่อน :)

ไร่ชาของคนเวียดนาม มาลงทุนทำการค้าในลาว
ที่เดียวที่ส่งขายทั่วประเทศ

ถึงแล้ววว ตาดฟาน
ให้ความรู้อ่านกันต่อ .......

น้ำตกตาดฟาน ( ตาด คือ น้ำตก ฟาน คือ
ชื่อของ สัตว์ป่าชนิดหนึ่ง คล้าย ๆ เก้ง )
น้ำตกตาดฟาน หรือ เรียก อีก ชื่อหนึ่วว่า น้ำตก ดงหัวสาว
น้ำตกตาดฟาน แห่งนี้เป็น น้ำตก ที่สูงที่สุด ของ ประเทศลาว
ซึ่งเป็น น้ำตก ที่มีความสูง ประมาณ 200 เมตร บรรยากาศ
โดยรอบ ขอบ น้ำตกตาดฟาน เป็นสภาพอากาศชื้น หนาวเย็นตลอดปี
เป็นเส้นทางสู่ เมืองปากซอง เมืองแห่งขุนเขาและ ไร่กาแฟ เป็น
พืชเศรษฐกิจ ที่ส่ง ออกของประเทศ
น้ำตกตาดฟาน เป็น น้ำตก ที่ เกิดจาก การไหลมารวมกัน
ของสายน้ำ ของ ภูเขา 2 ลูก ซึ่งไหล ตลอดทั้งปี รอบ ๆ
น้ำตกตาดฟาน จะเต็มไปด้วย ป่าไม้ นานาพันธ์ อันสมบูรณ์
เขียวขจี อันสดสวย และงดงาม ของธรรมชาติ
ลำเนาไพร เป็นเสห่ห์ ป่าเขา ธรรมชาติ ..............
-------------
ไปต่อกันที่ น้ำตกตาดผาส้วม อ๊ะ! อย่าเพิ่งตกใจชื่อกันไป
ตรงนี้สวยงามมากๆอีกที่หนึ่งเลย

.......น้ำตก ตาดผาส้วม หรือ ผาส่วม
(ตาด แปลว่า น้ำตก ส้วม แปลว่า ห้องหอ ของเจ้าบ่าว เจ้าสาว)
น้ำตกตาดผาส้วม หรือ ตาดผาส่วม แห่งนี้ จะ มีน้ำไหล ตลอดทั้งปี
เป็นน้ำตกที่สวยงาม ท่ามกลาง แท่งหิน
ผาที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งมีลักษณะ เป็นแท่งๆ ดั่งเหมือน
ได้นำแท่งหิน เหล่านั้น มาเรียงราย ให้เป็นระเบียบ ตกแต่ง ให้สวยงาม
เหมือน กับห้องนอน ซึ่งตรงนี้ เรียกว่า ถ้ำบาเจียง และ ถัดมา
ก็จะมีน้ำตก ที่ขนาดเล็กกว่า ซึ่งตรงนี้ เรียกว่า ตาดมะแงว
ซึ่งเป็นสถานที่ ที่เกี่ยวข้องกับนิทาน อันเล่าขานกันมานานแสนนาน
ก็คือ เรื่อง ความรักของท้าวบาเจียง กับนางมะโรง
และหลาย ๆ สถานที่จะเกี่ยวข้องกับความเป็นมาของเรื่องนิทานดังกล่าว
ทั่วบริเวณรอบๆนี้ ป่าไม้นานาพันธ์ ยังคงอยู่ในสภาพเดิม
สมบูรณ์ ของป่าไม้ พร้อมแวดล้อม ด้วยสถานที่พัก
และห้องอาหาร ที่เป็นบรรยากาศ หาดูได้ยากมาก
ที่มีร้านอาหาร ที่พัก รีสอร์ท และ หมู่บ้าน เฮือนชนเผ่า
ที่ ใกล้ และติดกับธรรมชาติ ที่สวยงาม เหมือน ที่นี่..........

ข้างบนเป็นรูปสะพานไม้ ระหว่างทางไปตาดผาส้วม
ธารน้ำข้างล่าง ก็คือน้ำมาจากน้ำตกนั่นแหละค่ะ

จุดสุดท้ายสำหรับวันนี้ เตรียมตัวเดินทางกลับจ้า
หมู่บ้าน เฮือน ชนเผ่า จ้ะ :)
เวลาอาจจะน้อย ไม่ได้ทั่วถึง แต่เป็นทริปที่สนุก เฮฮา
มีความสุขไปตามประสา น๊อ ! :)



เดินทางกลับประเทศบ้านเกิดเมืองนอน ก็เย็นย่ำ
แถวต้องรีบไป เดี๋ยวด่านปิด ออกไม่ได้ก็จะยุ่งไปกันใหญ่
อากาศดี เย็นจนหนาว มาตลอดการเดินทาง จนถึงบ้านเลยจ้า

ปิดท้าย อาหารมื้อเย็น บ้านเฮา ที่อำเภอวารินฯ
ก่อนออกเดินทางกลับบ้านเฮาน๊อออ :)

แถมๆๆๆๆ

แมวสัญชาติลาว เจออยู่ระหว่างทางเดินไปชม
น้ำตกตาดฟาน มันนอนอยู่ ไปเขี่ยๆๆมัน เลยบิดไปบิดมา
55555

ขอบคุณความรู้จากการเดินทาง ที่เก็บได้บ้างไม่ได้บ้าง
หาเพิ่มเติมมาให้อ่านด้วยจ้ะ
ขอบคุณสำหรับการชมตั้งแต่ต้นเลย เขียนได้ยาวมากอ่ะ
ผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ นะคะ :)
See u Next Post ...... :)